ผศ.ดร.สัญญา เคณาภูมิ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรหลัก ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการวิจัยประเมินผลระดับจังหวัด
ณ จังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2568
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา
ผศ.ดร.สัญญา เคณาภูมิ ประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมและพัฒนาวิชาการดอกเตอร์เคน
ได้รับเกียรติจาก สมาคมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จังหวัดร้อยเอ็ด ให้ดำรงตำแหน่งวิทยากรหลักในการอบรมเชิงวิชาการ
ในหัวข้อ “หลักการวิจัยประเมินผล (Evaluation Research) ตามกรอบแนวคิด CIPPIEST” ภายใต้ โครงการพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยประเมินผล ครึ่งทางแผนพัฒนาสุขภาพระดับพื้นที่ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) การอบรมจัดขึ้น ณ หอประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขร้อยเอ็ด จำกัด
โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 80 คน ประกอบด้วย
• คณะอนุกรรมการพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล
• บุคลากรสาธารณสุขในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด
• ผู้สังเกตการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียดโครงการ:
โครงการฯ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้สามารถจัดทำงานวิจัยเชิงประเมินผลได้อย่างมีคุณภาพ โดยเน้นที่แนวทาง CIPPIEST Model ซึ่งพัฒนาเพิ่มเติมจากแนวคิดดั้งเดิมของ Stufflebeam (CIPP Model) ประกอบด้วย 8 มิติ ได้แก่
1. Context Evaluation
2. Input Evaluation
3. Process Evaluation
4. Product Evaluation
5. Impact Evaluation
6. Effectiveness Evaluation
7. Sustainability Evaluation
8. Transportability Evaluation
ในงานนี้ ผศ.ดร.สัญญา ได้นำเสนอแนวทางการวิเคราะห์ข้อมูลวิจัย การเขียนโครงร่าง และเทคนิคการจัดทำรายงานวิจัยในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้ได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลในการวิจัย
โครงการยังเชื่อมโยงกับความร่วมมือทางวิชาการระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และวิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)
ผลที่คาดว่าจะได้รับ:
• ผลิตนักวิจัยท้องถิ่นที่มีทักษะในการวิจัยประเมินผลมากกว่า 20 คน
• สร้างผลงานวิจัยที่สามารถนำไปใช้ประเมินนโยบายและพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ
• ต่อยอดองค์ความรู้สู่การตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติและนานาชาติ
การเข้าร่วมเป็นวิทยากรของ ผศ.ดร.สัญญา ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาวิชาการของภาคสาธารณสุขในระดับจังหวัด แต่ยังตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามในการเป็นแหล่งความรู้ที่รับใช้ท้องถิ่นด้วยจิตวิญญาณของนักวิชาการอย่างแท้จริง
